วันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2559





การที่คนๆ หนึ่งจะกลายมาเป็นจิตรกรเอกของโลกไม่ใช่เรื่องง่าย และหากมีพรสวรรค์ติดตัวมาตั้งแต่เกิด อีกทั้งมีองค์ประกอบของชีวิตที่เหมาะสม คือ ได้เกิด ได้อยู่ในครอบครัวและสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการสร้างสรรค์งานศิลปะมาตั้งแต่เด็ก  จึงไม่ยากเลยที่คนๆ นั้นจะเกิดแรงบันดาลใจและจินตนาการในการสร้างสรรค์งานศิลปะขึ้นได้อย่างไร้ขอบเขต 


ประวัติ  ปาโบล รุยซ์ ปิกัสโซ่ (Pablo Ruiz Picasso)  




  ปิกัสโซ่ (Picasso)  เกิดเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ค.ศ. 1881  ที่เมืองมาลากา แคว้นอันดาลูเซีย ประเทศสเปน เขาเป็นบุตรชายคนโตของ คอนโคเซ รุยซ์ อี บลัสโก (Don Jose Ruiz สเปน : Don José Ruiz y Blasco) ซึ่งมีอาชีพเป็นครูสอนศิลปะในมหาวิทยาลัย กับมารีอา ปีกัสโซ อี โลเปซ (Maria Picasso Ruiz ; สเปน : María Picasso y López) 
 ปาโบล รุยซ์ ปิกัสโซ (Pablo Ruiz Picassoจิตรกรเอกของโลก เป็นบุคคลที่นิตยสาร TIME ยกย่องให้เป็นศิลปินที่มีพรสวรรค์ในการสร้างสรรค์มากที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20 ปิกัสโซเกิดเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ปี 1881 ที่เมืองมาลากา แคว้นอันดาลูเซียทางตอนใต้ของ ประเทศสเปน เป็นบุตรชายคนโตของดอนโคเซ รุยซ์ อี บลัสโก (ค.ศ. 1838-1913) กับมารีอา ปีกัสโซ อี โลเปซ บิดาเป็นครูสอนศิลปะในมหาวิทยาลัย งานของปิกัสโซเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยแต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ แต่การเปลี่ยนแปลงทิศทางรูปแบบของผลงานนั้นเกิดจากหรืออาจได้รับแรงบันดาลใจมาจาก เฟอร์นานเดอ โอริเวียร์ Fernande Olivier ซึ่งเป็นคนรักคนแรกของเขา และเขาได้แต่งงานครั้งที่ 2 กับแจ็คเกอรีน โร๊ค ในปี 1961 และเขาจบชีวิตศิลปินลงในวันที่ 8 เมษายน ปี 1973 เสียชีวิตในวัย 91 ปี
        ปิกัสโซ่ (Picasso) เป็นเด็กที่แปลกกว่าเด็กทั่วไปที่ปกติจะต้องเรียก แม่ เป็นคำพูดแรก  แต่คำแรกของปิกัสโซ่ กลับเป็นคำว่า “piz, piz” ซึ่งมาจากคำว่า “lapiz (ลาปิซ) ซึ่งแปลว่า ดินสอ ในภาษาสเปน
        ปิกัสโซ่ (Picasso) ได้รับของขวัญเป็นจานสีและพู่กันเมื่อเขามีอายุได้เพียง 6 ขวบ  ความเป็นศิลปินฉายแววตั้งแต่เด็กและเด่นชัดอีกครั้งจากความบังเอิญ เมื่อบิดาซึ่งกำลังวาดภาพนกพิราบ ลุกออกจากห้องเพื่อไปทำธุระอะไรบางอย่าง และปิกัสโซ่เข้ามาวาดรูปนั้นแทนจนเสร็จ ยังความประหลาดใจให้กับบิดาเมื่อเขากลับเข้ามาในห้องนั้น เพราะภาพวาดนกพิราบที่ปิกัสโซ่วาดไว้ นอกจากจะสวยงามแล้วก็ยังเต็มไปด้วยพลังแห่งการสร้างสรรค์อีกด้วย
        ปิกัสโซ่ (Picasso)  สร้างสรรค์งานศิลปะได้หลายรูปแบบ ไม่ใช่เฉพาะแต่เพียงภาพวาด (drawing) หรือภาพวาดสีด้วยพู่กัน (painting) แต่เขายังสามารถทำ รูปปั้น รูปหล่อ (sculpture) ภาพพิมพ์ (printmaking) เครื่องเคลือบดินเผา (ceramics)  รวมทั้งใช้วัสดุอื่นๆ มาประยุกต์ให้เป็นผลงานศิลปะได้อีกด้วย เช่น การใช้ชิ้นส่วนเก่าของรถจักรยานมาทำงานหล่อที่ชื่อว่า Bull’s Head 

ผลงาน

ปาโบล รุยซ์ ปิกัสโซ่ (Pablo Ruiz Picasso) ผู้ที่มีผลงานภาพวาด ชื่อGarcon a la Pipe เป็นภาพวาดเด็กชายถือไปป์และมีมงกุฎดอกไม้ประดับไว้บนศรีษะ ซึ่งมีราคาแพงเป็นอันดับ 3 ของโลก คือ 106,910,000  ดอลล่าร์สหรัฐ  ปิกัสโซ่ วาดภาพนี้ ขณะที่อาศัยอยู่ที่ Montmartre ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อ ค.ศ 1950  ขณะที่เขามีอายุเพียง 24 ปี 
        ภาพวาดที่มีราคาแพงที่สุด เป็นอันดับที่ 3 ของโลก "Garcon la Pipe"

ภาพเขียนของปีกัสโซแบ่งเป็นช่วงต่าง ๆ ได้ ดังนี้

1. Blue Period ค.ศ. 1901-1904 (ยุคสีน้ำเงิน)



2.Rose Period ค.ศ. 1904-1906 (ยุคสีชมพู)



3.African-Influenced Period ค.ศ. 1906 - 1907

 


4.Cubism ค.ศ. 1909 - 1912 (บาศกนิยม)



5.Classicism and surrealism  ค.ศ. 1913 - 1945 
(ยุคคลาสสิกและเหนือจริง)

 

6.Later works ค.ศ. 1946- 1973 (ยุคสุดท้าย)

 


เหตุผลที่ภาพวาดปีกัสโซทุบสถิติ                                   “ผลงานศิลปะแพงที่สุดในโลก”

07พ.ค.

สาเหตุที่ทำให้  “Nude, Green Leaves, and Bust” มีค่ามหาศาล ไม่ได้เป็นเพราะภาพนี้คือหนึ่งในสุดยอดผลงานของจิตรกรเอกชื่อดังก้องโลกอย่าง “ปีกัสโซ” เท่านั้น หากยังถือเป็นภาพที่หาดูยากและมีน้อยคนนักจะที่ได้เห็น เนื่องจากถูกเก็บรักษาไว้อย่างมิดชิดในฐานะสมบัติส่วนตัวของตระกูลโบรดี้มานานกว่าครึ่งศตวรรษ   ที่ผ่านมาภาพดังกล่าวเคยถูกนำออกแสดงที่สหรัฐอเมริกาครั้งแรกครั้งเดียวเมื่อปี ค.ศ. 1961 (พ.ศ. 2504)
ที่สำคัญ ภาพนี้ยังมีที่มาและความหมายอันลึกซึ้งแอบแฝงอยู่ซึ่งนางเกลนี่ย์ส โรเบิร์ตส ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวเดลิเมล์ได้อธิบายเอาไว้ ดังนี้…
1. แอบมองหลังม่าน
ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่าบริเวณหมายเลข 1 มีภาพใบหน้าของปีกัสโซซ่อนอยู่ตรงแบ็คกราวน์สีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความสัมพันธ์อันผิดทำนองคลองธรรมหรือเป็นรักต้องห้ามระหว่างเขากับมารี-เตเรส
2. ภาพดับเบิ้ล หรือภาพส่วนศีรษะ
เหนือร่างอันเปลือยเปล่าของมารี-เตเรส  ปรากฏภาพส่วนศีรษะของเธอตั้งอยู่บนแท่นหรือเสารูปทรงคลาสสิก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าปีกัสโซชื่นชมและยกย่องในตัวเธอเป็นอย่างมาก
3. ใบไม้รูปหัวใจ
ต้นไม้ในภาพให้ความรู้สึกพลิ้วไหว มีชีวิตชีวา เหมือนกำลังเจริญงอกงาม และมีใบไม้สีเขียวใบหนึ่งที่เป็นรูปหัวใจ ซึ่งหมายถึงความรักที่เขามีต่อเธอ
4. เงาดำ
ภาพเงาดำที่พาดผ่านร่างอันเปลือยเปล่าของมารี-เตเรสยังคงสร้างความพิศวงให้กับผู้เชี่ยวชาญด้านงานศิลปะ จึงมีการตีความที่หลากหลายแตกต่างกัน  โดยเฉพาะเงาดำที่อยู่บริเวณลำคอ บางคนกล่าวว่าเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความเป็นเจ้าของและแอบครอบครอง (เป็นชู้รัก) ขณะที่บางคนบอกว่าเงาดำบริเวณลำคอถือเป็นการยกย่องภาพวาดของศิลปิน “อองรี มาติสส์” ที่อยู่ในความครอบครองของปีกัสโซ  (มาติสส์ เคยวาดภาพลูกสาวคนโตสวมโช้คเกอร์หรือสร้อยแบบติดคอสีดำ)
5. ผลไม้ต้องห้าม
ปีกัสโซ วาดภาพผลแอปเปิ้ลที่ได้ชื่อว่าเป็น “ผลไม้ต้องห้าม” อันเป็นสัญลักษณ์ของแรงดึงดูดทางเพศตามพระคัมภีร์เดิม ซึ่งในที่นี้หมายถึงมารี-เตเรสนั่นเอง